liveresin คืออะไร ? คำถามที่ใครหลายคนสงสัย และอยากรู้ เรซิน น้ำยากัญชาเข้มข้น (Live Resin) ว่ามันคืออะไร มาจากไหน และสามารถนำไปใช้งานอะไรได้บ้าง ในบทความต่อไปนี้จะมาอธิบาย และให้ความรู้กับทุกท่านที่เข้ามารับชม ให้ได้เข้าใจ และเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน
เรซิน น้ำยากัญชาเข้มข้น Live resin คืออะไร ?
เรซิน (Resin) คือส่วนของกัญชาที่เหลือหลังจากการสกัดสารสำคัญออกมา เช่น สารที่มีผลกระทบทางจิตใจและรสชาติ ซึ่งเป็นส่วนที่เรียกว่าทราบ ในกระบวนการสร้างน้ำยากัญชาเข้มข้นที่เรียกว่า “Live resin” เรียกได้ว่าเป็นการสกัดสารสำคัญจากกัญชาโดยใช้วิธีการแช่แข็งแบบเร็วทันใจหลังจากเก็บเกี่ยวพืช ซึ่งจะช่วยให้สารสกัดมีคุณสมบัติที่สูงและรสชาติที่ดีที่สุดที่เป็นไปได้จากพืชใหม่ๆ
น้ำยากัญชาเข้มข้นแบบ Live resin มีคุณสมบัติที่แตกต่างจากน้ำยาที่สกัดจากกัญชาแห้งอื่นๆ โดยมีรสชาติที่สดใส และมีกลิ่นหอมของพืชที่สดใหม่ การสกัดที่ทำขึ้นเร็วมีผลต่อการรักษาสารสกัดที่ดีที่สุดจากพืช โดยทั่วไป Live resin มักจะมีรสชาติและกลิ่นของกัญชาที่เป็นเอกลักษณ์มากขึ้น ทำให้เป็นที่นิยมในชุมชนผู้บริโภคที่ต้องการประสบการณ์การบริโภคที่มีคุณภาพสูง
การสกัดเรซิน น้ำยากัญชาเข้มข้น จากดอกกัญชา
สารสกัดที่ได้มาจากพืช ที่ถูกแช่แข็งทันทีหลังจากเก็บเกี่ยว รู้จักกันในชื่อ live resin วัตถุประสงค์ของการสกัดสารนี้ขึ้นมาก็เพื่อคงไว้ซึ่งสถานะ ฟลูสเป็กทรัม ( full spectrum ) ให้เหมือนกับตอนเก็บเกี่ยวและเพื่อให้ได้กลิ่นที่รุนแรง เทียบเท่ากับกลิ่นของกัญชาสดเลยก็ว่าได้ สารสกัดเหล่านี้เป็นสารที่รสชาติและกลิ่นเข้มข้นที่สุดในท้องตลาด และยังมีสาร Terpene ที่สูงมากเลยทีเดียว
การสกัดเรซินหรือน้ำยากัญชาเข้มข้นจากดอกกัญชาเป็นกระบวนการที่ใช้เทคนิคการสกัดสารสำคัญออกมาจากดอกกัญชาเพื่อให้ได้สารสกัดที่เข้มข้นและมีคุณภาพสูง ขั้นตอนในการสกัดเรซินอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับเทคนิคและวัตถุดิบที่ใช้ โดยทั่วไปมักจะใช้วิธีการสกัดด้วยสารละลายที่เหมาะสมเพื่อสกัดสารสำคัญออกมา
กระบวนการสกัดคือใช้ ความร้อนและแรงดันเป็นส่วนสำคัญ ในการรักษาคุณภาพของ องค์ประกอบ จากกัญชา ซึ่งมักจะใช้เป็นดอกกัญชาสดแช่แข็ง ดอกตากแห้ง หรือ แฮช ที่ล้างใหม่ ผลที่จะได้คือ Rosin สดที่ชัดเจนและบริสุทธิ์ ส่วนประกอบจากพืชจะคงอยู่เหมือนเดิม ในรูปแบบที่มีความเข้มข้นมากขึ้น
กระบวนการสกัดด้วยไฮโดรคาร์บอน โดยหลังจากได้ผลผลิต ( ช่อดอกหลังเก็บเกี่ยว ) น้ำส่วนนั้นไปแช่แข็งโดยใช้ ไฮโดรคาร์บอน และทำการสกัด โดยใช้ความร้อน และแรงกดทับ เพื่อให้ไตรโคมซึ่งเป็นโครงสร้างเล็ก ๆ ละเอียดอ่อนเหล่านี้ กดทับกันจนเกิดเป็นของเหลว ( น้ำมันจากไตรโคม ) และเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ตรงตามความต้องการแล้วนั้น ควรใช้กระดาษมัน ( สำหรับรองการรีดน้ำมัน ) รูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ( สีเหลี่ยมจัตุรัสไม่เหมาะ เพราะรูปแบบไม่เหมาะให้ เรซิ่น ไหลออกแท่นกด ) เพียงเท่านี้ก็สามารถสกัดสารสำคัญ หรือ เรซิ่นตามที่เราต้องการได้แล้วนั่นเอง
โดยปกติแล้ว กัญชาจะสกัดได้ต่อเมื่อถูกทำให้แห้งเสียก่อนเผื่อให้ได้มาซึ่งความเข้มข้น แต่อย่างไรก็ตาม กระบวนการของการตากแห้ง ก็ทำให้คุณภาพของสาร terpene น้อยลงเช่นกัน จากการโดนออกซิเจนนานๆ หรือการถูกแสงอีกด้วย แต่การสกัดแบบแช่แข็ง ทำให้ Live Resin สามารถรักษา terpene ไว้ในระดับที่สูงมาก นั่นหมายความว่า ความเข้มข้นของคุณภาพสาร THC และ CBD จะยังคงอยู่มากด้วย อีกทั้งยังเก็บกลิ่นของสายพันธุ์กัญชาได้ดีอีกด้วย
การสกัดเรซินหรือน้ำยากัญชาเข้มข้นเป็นวิธีการที่ช่วยให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์การบริโภคที่มีคุณภาพสูงและสารสกัดที่มีความเข้มข้นและความเสมอภายในสูตรผลิต
ฟลูสเป็กทรัม (Full Spectrum) ในพืชกัญชาหลังสกัด Liver Sesin คืออะไร ??
ฟลูสเป็กทรัม (Full Spectrum) ในพืชกัญชาหลังจากการสกัด Live Resin หมายถึงการรวมกลุ่มของสารสกัดทั้งหมดที่ถูกสกัดออกมาจากพืชกัญชา ซึ่งรวมถึงสารสกัดที่มีชื่อเสียงเช่น THC (Delta-9-tetrahydrocannabinol) และ CBD (Cannabidiol) รวมทั้งสารสกัดอื่นๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของไครโคม (Trichomes) ในกัญชา การสกัด Live Resin มักจะรวมทั้งส่วนที่สำคัญของพืชเข้าด้วยกัน เพื่อให้ได้สารสกัดที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงที่สุดจากพืชกัญชาทั้งหมด
การใช้ Full Spectrum หลังจากการสกัด Live Resin จึงมุ่งเน้นไปที่การรักษาคุณค่าทางการแพทย์ของพืชกัญชาให้มากที่สุด โดยไม่เพิ่มหรือลดสารสกัดที่สำคัญออกไป ซึ่งการรวม Full Spectrum จึงเป็นวิธีที่เชื่อถือได้ในการให้ประโยชน์ทางการแพทย์และประสิทธิภาพที่สูงของสารสกัดจากกัญชา
ไครโคม (Trichomes) ในกัญชา คืออะไร ?
ไครโคม (Trichomes) เป็นส่วนที่สำคัญของพืชกัญชา (Cannabis) ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนที่ผลิตสารสกัดที่มีประโยชน์ ไครโคมมีลักษณะเป็นโคนที่มีรูปร่างเป็นก้อนเล็กๆ ที่อยู่บนผิวของใบ ก้าน และดอกของพืชกัญชา ไครโคมมีหน้าที่สำคัญในการผลิตสารสกัดที่มีคุณภาพ เช่น ไครโคมจะสร้างสารสกัดออกมาเป็นกัลเลท (Resin) ซึ่งประกอบไปด้วยสารสกัดที่มีส่วนสำคัญต่อผลิตภัณฑ์ที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะสาร THC (Delta-9-tetrahydrocannabinol) ซึ่งมีผลกระทบทางจิตใจ และสาร CBD (Cannabidiol) ซึ่งมีส่วนช่วยรักษาอาการทางการแพทย์ในหลายๆ รูปแบบ
สารไตรโคม (Trichomes) มักพบจะที่ช่อดอก ถ้าดูจากดอกจะเป็นขนขาวๆ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเมื่อออกดอกภายในจะมีน้ำมันอยู่ สีใสเป็นช่วงที่กัญชาและกัญชงกำลังผลิตสารต่างๆออกมา เมื่อถึงช่วงที่พร้อมเก็บเกี่ยวและมีปริมาณสาร THC CBD สูงสุด ไตรโคมจะเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น ยิ่งมีไตรโคมมากยิ่งมีสาร THC CBD มากขึ้น Trichomes ( ไตรโคม ) นั้นมีรากศัพท์มาจากคำว่า tríchōma ที่แปลว่า การเติบโตของเส้นผม นั้นคือส่วนที่คล้าย ๆ กับดอกเห็ด ปกคลุมบริเวรณดอกของกัญชา และส่วนนี้แหละที่เก็บสารสำคัญในกัญชาไว้เยอะที่สุดไม่ว่าจะเป็น THC (Tetrahydrocannabinol) หรือ CBD (Cannabidiol)
สาร THC (Tetrahydrocannabinol) และ CBD (Cannabidiol)
ในกัญชา (Cannabis) จะมีสารสำคัญมากมาย หลายร้อยชนิด และแบ่งออกเป็นสารสำคัญได้ 2 ชนิดคือ สาร THC (Tetrahydrocannabinol) และสาร CBD (Cannabidiol) คือสารทั้ง 2 ชนิดนี้มีความคล้ายกันมากๆ แต่จะให้ผลลัพท์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง โดยสารทั้ง 2 ชนิดนี้จะประกอบไปด้วย คาร์บอน 21 อะตอม ไฮโดรเจน 30 อะตอม และอ็อกซิเจน 2 อะตอม แต่ที่มันต่างกันเพราะ การเรียงตัวของอะตอม ที่ไม่เหมือนกันนั่นเอง
สาร THC และสาร CBDทั้งสองชนิดนี้ อยู่ในกลุ่มของ แคนนาบินอยด์ (Cannabinoid; CB) สารชนิดนี้จะอยู่ในร่างกายมนุษย์อยู่แล้ว และมันจะทำงานก็ต่อเมื่อผสานเข้ากับ ตัวรับแคนนาบินอยด์ เช่น แคนนาบินอยด์ในสมอง ถ้าร่างกายผลิตมันได้อย่างเหมาะสมแล้ว ก็จะช่วยให้คลายความกังวล ลดความเศร้า นั่นเอง เปรียบเสมือนว่า มนุษย์ที่สูบกัญชาแล้ว จึงจะได้รับผลของ แคนนาบินอยด์เพราะมนุษย์เราก็สามารถผลิตสารพวกนี้ได้บางส่วน และมีตัวรับอยู่ในร่างกายของทุกๆคน
สาร THC (Tetrahydrocannabinol) และ CBD (Cannabidiol) เป็นสองสารสำคัญที่พบในพืชกัญชา (Cannabis) โดยมีลักษณะและคุณสมบัติที่แตกต่างกันดังนี้:
THC (Tetrahydrocannabinol):
- THC เป็นสารที่ทำให้เกิดผลกระทบทางจิตใจและร่างกาย หรือที่เรียกว่า “High” หรือ “เมา”
- มีฤทธิ์ทางเภสัชกรรมที่ทำให้ผู้บริโภครู้สึกผ่อนคลายและมีความสนุกสนาน
- มีฤทธิ์ต้านความเจ็บปวดและคลายกล้ามเนื้อ
CBD (Cannabidiol):
- CBD เป็นสารที่ไม่ทำให้เกิดผลกระทบทางจิตใจและไม่ทำให้เกิดความ High
- มีฤทธิ์ต้านการชัก และมีคุณสมบัติที่ช่วยลดอาการเครียดและซึมเศร้า
- มีคุณสมบัติต้านการอักเสบและช่วยบรรเทาอาการปวดระบบประสาท
-
สาร THC และ CBD มักถูกนำมาใช้ทางการแพทย์ในหลายรูปแบบ เช่น ในการรักษาโรคอัมพาต นอกจากนี้ยังมีการใช้งานทางการแพทย์ในการรักษาโรคต่างๆ เช่น อาการชัก, โรคซึมเศร้า, โรคซึมเศร้า, โรคอัลไซเมอร์, และโรคมะเร็ง อย่างไรก็ตามการใช้สาร THC และ CBD ในทางการแพทย์ควรมีการคำนึงถึงปริมาณและอัตราส่วนที่เหมาะสมต่อผู้ป่วยและอาการโรคแต่ละราย และควรรับคำแนะนำจากแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ก่อนใช้งาน