Ganja – กัญชา พืชกัญชาเป็นพืชที่มีสารสำคัญมากมาย มนุษย์รู้จักและนำมาใช้ประโยชน์กัญชาทางยามานานในอดีต แต่เมื่อกัญชาถูกจำกัดการใช้เป็นยาเสพติด การใช้ในด้านการแพทย์ถูกระงับ แม้ว่ายังมีชาวบ้านบางคนที่ใช้เพื่อรักษาอาการบางอย่างด้วยวิชาประจำชาวบ้าน จนกระทั่งมีนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการใช้พืชกัญชาในด้านการแพทย์ในยุคสมัยใหม่ ซึ่งทำให้พืชกัญชากลับมาเป็นที่น่าสนใจอีกครั้ง โดยที่ในประเทศไทยได้มีการอนุญาตให้ปลูกและใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ได้ และระงับการให้กัญชาเป็นยาเสพติดให้โทษ ทำให้ส่วนหนึ่งของพืชกัญชาได้รับความสนใจในการนำไปใช้ประโยชน์ทางการแพทย์อีกครั้งในปัจจุบัน
ลักษณะทางพันธุสาสตร์ของ Ganja – กัญชา
กัญชา เป็นพืชในวงศ์ Cannabis sativa L. ในวงศ์ Cannabaceae มีความสูงของลำต้นไม่เกิน 2 เมตร ลักษณะของใบมีแฉกลึกเข้าไปทางก้านหลายแฉก แต่ละสายพันธุ์จะแตกต่างกันไป ดอกมีสีเขียว – ม่วง – แดง ( ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ ) ใบและช่อดอกเพศเมียที่แห้ง จะเรียกว่า กระหรี่กัญชา โดยส่วนมากใช้ในการสูบผสมกับเส้นยาสูบ มีสรรพคุณทำให้เกิดความมึนเมา รวมถึงภาวะเคลิ้มสุข ผลข้างเคียงอาจเกิดขึ้น เช่น การคิด การตัดสินใจช้าลง ความจำระยะสั้นลดลง และอาจมีความรู้สึกหวาดระแวงหรือวิตกกังวลบางครั้ง แต่กัญชายังมีประโยชน์ในการผ่อนคลายและเพิ่มความอยากอาหารเช่นกัน
Ganja – กัญชา ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง ??
กัญชาประกอบด้วยสารประกอบหลายชนิดที่มีผลต่อร่างกายและจิตใจของมนุษย์ สารประกอบที่สำคัญประกอบไปด้วย:
-
Tetrahydrocannabinol (THC): เป็นสารที่ทำให้เกิดความมึนเมาและมีผลต่อจิตใจ มีส่วนรับผิดชอบในความสนใจ ควบคุมการรับรู้ และอารมณ์ของบุคคล
-
Cannabidiol (CBD): เป็นสารที่ไม่ทำให้มึนเมาและไม่มีผลต่อจิตใจเหมือน THC มีคุณสมบัติที่มีประโยชน์ในการบรรเทาอาการอาการเส้นเลือดแดง อักเสบ และโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบประสาท
-
Cannabinol (CBN): เป็นสารที่เกิดจากการสลายของ THC มีคุณสมบัติที่ทำให้มีความง่วง
-
Terpenes: เป็นสารที่มีกลิ่นหอมธรรมชาติที่เป็นเซนเซชั่นที่ให้กัญชากลิ่นหอม และมีผลต่อความมีอารมณ์และสุขภาพ
-
Cannabinoids อื่น ๆ: นอกจากนี้ยังมีสาร Cannabigerol (CBG), Cannabichromene (CBC), และอื่น ๆ ที่มีผลต่อร่างกายและจิตใจแตกต่างกันไป
-
กรดไขมัน: กัญชามีปริมาณสูงของกรดไขมัน ซึ่งมีผลทำให้มีประโยชน์ต่อสุขภาพเช่นการลดอักเสบและประสิทธิภาพในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน
กัญชา มีถิ่นกำเนิดในทวีปเอเชีย มีเขตกระจายพันธุ์ในอัฟกานิสถาน และปลูกมากตามแนวเขาทางภาคเหนือของประเทศไทย แต่ทว่าในทางการแพทย์นั้น กัญชาเป็นยารักษาโรคได้อย่างดี โดยประโยชน์ของ กัญชา คือรักษาโรคข้อ รักษาโรคมะเร็ง ( ช่วยทำให้เนื้อเยื้อมะเร็งสลายตัวไปได้ ) รักษาโรคลมชัก ลดอาการปวด แก้โรคนอนไม่หลับ แก้โรคบิด ปวดท้อง แก้โรคกล้ามเนื้อกระตุก แก้อาการปวดหัว ไมเกรน แก้โรคซึมเศร้า และประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย ที่มนุษย์ยังไม่สามารถศึกษาและค้นคว้าได้หมดนั่นเอง
7 สายพันธุ์กัญชา ( Ganja ) ที่มีประสิทธิภาพและคุณสมบัติในการรักษา
สายพันธุ์กัญชา (Ganja) ที่มีประสิทธิภาพและคุณสมบัติในการรักษามีหลากหลาย แต่มักจะเน้นไปที่สายพันธุ์ที่มีระดับสารสกัดที่สูง และสารสำคัญอื่น ๆ ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมนุษย์ เช่น:
-
Charlotte’s Web: เป็นสายพันธุ์ที่มีระดับ CBD สูง มีความเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรับประทาน CBD เพื่อบรรเทาอาการอาการที่เกี่ยวข้องกับอัตราการหยุดชั่วคราวหรือการชักของสมอง
-
ACDC: สายพันธุ์นี้มีระดับ CBD สูงและ THC ต่ำ เหมาะสำหรับการใช้เพื่อบรรเทาอาการเจ็บป่วย อักเสบ และความไม่สบายที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ
-
Harlequin: มีส่วนผสมของ CBD และ THC สูง ช่วยลดอาการปวดเฉียบพลัน อักเสบ เจ็บและหยุดการชั่งใจ
-
Sour Tsunami: เป็นสายพันธุ์ที่มีระดับ CBD สูง มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการปวดเฉียบพลัน อักเสบ และอาการปวดที่เกี่ยวข้องกับโรคเกร็ง
-
Cannatonic: สายพันธุ์นี้มีส่วนผสมของ CBD และ THC ที่สูง มีประสิทธิภาพในการบรรเทาอาการอักเสบ ปวดเฉียบพลัน และความไม่สบายในเรื่องของระบบประสาท
สายพันธุ์กัญชา ( Ganja ) ที่มีประสิทธิภาพและคุณสมบัติในการรักษามีหลากหลายเช่น Charlotte’s Web ที่มีระดับ CBD สูงเหมาะสำหรับบรรเทาอาการที่เกี่ยวข้องกับการชักของสมอง และ ACDC ที่มีระดับ CBD สูงและ THC ต่ำเหมาะสำหรับบรรเทาอาการเจ็บป่วย อักเสบ และความไม่สบายที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ อื่น ๆ มี Harlequin, Sour Tsunami, และ Cannatonic ซึ่งมีส่วนผสมของ CBD และ THC ที่สามารถบรรเทาอาการอักเสบ ปวดเฉียบพลัน และอาการไม่สบายในระบบประสาทได้