สำหรับกฏหมายในประเทศไทย หากใครที่ต้องการหรือมีความประสงค์ที่จะนำเข้าพืชกัญชา จะต้องผ่านพิธีการศุลกากรให้ถูกต้อง หากลักลอบนำเข้า หรือ การนำเข้ามาโดยผ่านพิธีการศุลกากรแต่ไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ซึ่งมีโทษทั้งจำทั้งปรับ โดยการมี กัญชานำเข้า ที่ไม่มีใบอนุญาตการ จะเป็นการนำเข้าที่มีความผิดทางกฏหมาย

แม้ประชาชน จะสามารถปลูกกัญชาได้โดยไม่ต้องขออนุญาต แต่ยังต้องจดแจ้ง ปลูกกัญชา กัญชง ผ่านแอปพลิเคชั่นปลูกกัญชา เพื่อให้เป็นแหล่งข้อมูล ให้ผู้ประกอบการสามารถแสวงหาวัตถุดิบ ที่จะนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพมาตรฐานออกสู่ตลาด อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอีกด้วย การปลูกกัญชาในเชิงพานิชย์ ยังต้องได้รับอนุญาต จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย. ) สกัด-แปรรูป ก็ต้องได้รับอนุญาตจาก อย เช่นเดียวกัน

  • การขาย ส่งออก นำเข้า กัญชา  : ต้องขออนุญาตจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และห้ามขายกัญชา กัญชง เพื่อการนำไปบริโภค ก็คือ การกิน เคี้ยว ดื่ม อม หรือนำเข้าสู่ร่างกายไม่ว่าด้วยวิธีใด ๆ ก็ตาม หรือในรูปลักษณะใด ๆ แก่บุคคลที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร และบุคคลตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ระบุไว้
  • การโฆษณา : ห้ามไม่ให้มีการโฆษณา เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากผู้อนุญาต จาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

ความผิดทางกฏหมายของลักลอบนำเข้า เมล็ดกัญชา หรือ ดอก กัญชานำเข้า

และแม้ว่า กัญชา กัญชง จะไม่เป็นยาเสพติดแล้ว แต่หากมีการนำเข้า ผู้นำเข้าจะต้องผ่านพิธีการทางศุลกากร และปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงประกาศของ กรมวิชาการเกษตร ที่ได้ออกประกาศควบคุมการนำเข้า เมล็ดพันธุ์ดอกกัญชา และควบคุมป้องกันโรค แมลงศัตรูพืชที่ติดมากับเมล็ดพันธุ์อย่างเข้มงวด ที่ผ่านมาพบว่ายังมีการลักลอบนำเข้าเมล็ดพันธุ์กัญชาและต้นกล้ากัญชาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะตามตะเข็บชายแดนไทย ซึ่งหากนำเข้ามาโดยไม่ผ่านศุลกากร หรือนำเข้ามาโดยผ่านศุลกากรก้ตาม จะถือมีความผิดตามกฏหมาย โดยแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี ในการมีความผิดโทษฐานนำเข้า เมล็ดพันธุ์ดอกกัญชา หรือนำเข้าพันธุ์พืชที่ไม่ได้รับอนุญาต

กรณีที่ 1: หากเป็นการนำเข้ามาในประเทศไทย โดยไม่ผ่านของศุลกากร ถือเป็นความผิดฐานลักลอบหนีศุลกากร ตามพระราชบัญญัติ ศุลกากร มาตรา 242 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกินสี่เท่าของราคาของรวมภาษีอากร

กรณีที่ 2 : หากนำเข้ากัญชามาโดยผ่านช่องทางศุลกากร แม้ปัจจุบันกัญชาจะถูกปลดจากการเป็นยาเสพติดประเภท 5 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. 2564 แล้ว แต่การนำเข้ายังต้องคำนึงถึงกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง คือ พระราชบัญญัติพันธุ์พืช พ.ศ. 2518 และพระราชบัญญัติกักพืช พ.ศ. 2507 ดังนั้น กัญชายังถือเป็นสินค้าควบคุมการนำเข้า ซึ่งหากไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือได้รับอนุญาตก่อนที่จะนำเข้ามาในประเทศไทย อาจเป็นความผิดฐานหลีกเลี่ยงข้อห้าม ข้อกำกัด ตามพระราชบัญญัติศุลกากร มาตรา 244 มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 500,000 บาท (ห้าแสนบาท)

การนำเข้าพืช กัญชานำเข้า สำหรับประชาชนทั่วไป

สำหรับประชาชนทั่วไป ที่มีความประสงค์จะนำเข้า กัญชา จะต้องผ่านพิธีการของศุลกากรและปฎิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หากลักลอบนำเข้า หรือ นำเข้ามาโดยผ่านพิธีการศุลกากร แต่ไม่มีใบอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถือเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 มีโทษทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ หากจะมีการนำกัญชาออกนอกประเทศ ไปยังประเทศที่กำหนดให้กัญชายังเป็นพืชที่ผิดกฎหมาย อาทิ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย สิงค์โปร์ มาเลเซีย อาจมีโทษทั้งจำทั้งปรับ หรือโทษสูงสุดคือประหารชีวิต จึงขอให้ศึกษากฎหมายของต่างประเทศให้ดีก่อนจะนำติดตัวออกหรือส่งออกไปต่างประเทศ

ขั้นตอนการนำเข้าเมล็ดพันธุ์ กัญชา และ กัญชง

ประการที่ 1 ผู้ประสงค์นำเข้ากัญชาต้องทำการขอใบอนุญาตนำเข้า เมล็ตพันธุ์ควบคุมเพื่อการค้า โดยเอกสารผู้ประสงค์สามารถขอรับได้จากระบบออนไลน์ของกรม วิชาการเกษตร โดยจะให้แนบเอกสารดังนี้

  1. สำเนาทะเบียนพาณิชย์ หรือ หนังสือรับรองนิติบุคคล หรือ หนังสือจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน หรือ เอกสารอื่นๆแล้วแต่กรณี โดยต้องระบุสถานที่ทำการ และวัตถุประสงค์ในการประกอบพาณิชยกิจ
  2. หนังสือมอบอำนาจ ในกรณีที่มาดำเนินการแทนหรือได้รับมอบอำนาจ จากผู้ดำเนินกิจการของนิติบุคคล
  3. ภาพถ่ายสถานที่ เพื่อแสดงว่า มีความเหมาะสมในการประกอบกิจการ

ปล. ชื่อในการประกอบพาณิชยกิจ ต้องไม่ซ้ำหรือคล้ายคลึงกับชื่อที่ได้รับอนุญาตอยู่แล้ว และต้องไม่อยู่ในระหว่างถูกพักใช้ใบอนุญาต หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตที่ยังไม่ครบสองปี ( สามารถรับใบอนุญาตได้ในวันถัดไปหลังยื่นคำขอลและเอกสารถูกต้อง ครบถ้วน

ประการที่ 2 แจ้งรายการนำเข้า ผู้นำเข้าสามารแจ้งรายการนำเข้าผ่านระบบออนไลน์ของกรม วิชาการเกษตร โดยแนบเอกสารดังนี้

  1. ใบกำกับสินค้า เช่น Invoice, Performa Inv, Packing List
  2. รายละเอียดสายพันธุ์ กัญชา/กัญชง ที่นำเข้ามา ( Variety Profile )
  3. ใบรับรองสุขอนามัยพืช ( Phytosanitary Certificate )
  4. หนังสือรับรองจากผู้ผลิตว่าเป็นพืชที่ไม่ได้ตัดต่อพันธุกรรม ( Non GMOs )
  5. หนังสือรับรองคุณภาพเมล็ดพันธุ์ ( ระบุ %Germination และ %Physical Purity ) ซึ่งจะออกโดยหน่วยงานของรัฐ หรือเอกชนที่ประเทศต้นทางได้ให้การรับรอง หรือเป็นหน่วยงานที่ได้รับรอง ด้านการตรวจสอบคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ ที่องค์กรระหว่างประเทศยอมรับ

ประการที่ 3 ผู้นำเข้าไปรับสินค้านำเข้า ณ ด่านฯ ที่แจ้ง และเมื่อดำเนินพิธีการศุลกากรเรียบร้อยแล้วนั้น ผู้นำเข้า สามารถติดต่อรับสินค้าได้ ณ ด่านที่นำเข้า โดยต้องนำเอกสารต้นฉบับมาแสดงตามที่ได้แจ้งไว้ใน ขั้นตอนแจ้งรายการนำเข้า มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด้วย